เล่มนี้ว่าด้วยเรื่องชีวิตช้าช้า ในหลายๆ แง่มุม ที่ไม่ใช่เพียงการตากอากาศชั่วครั้งชั่วคราว
อยากรู้ว่าจะเร็ว จะช้า แค่ไหน หาอ่านได้ตามแผงครับ
ที่มาของปก / vol 26
บายไลน์: ณขวัญ ศรีอรุฯ
พาดหัว: ขี้เกียจกว่า…
ผมรู้สึกว่าคำว่าขยันหรือขี้เกียจอาจเป็นเรื่องสัมพัทธ์ มันขึ้นอยู่กับว่าเราเปรียบเทียบกับใครหรืออะไร
หากคุณอยากดูเป็นคนขยันขันแข็ง ก็ควรเอาตัวไปวางไว้ใกล้ๆ คนขี้เกียจ (กว่าคุณ) หรือหากหาคนขี้เกียจกว่าไม่เจอจริงๆ (อาจจะเพราะขี้เกียจหา) อนุโลมให้ไปยืนเทียบเคียงกับโคอาลาที่สวนสัตว์เชียงใหม่
หากคุณอยากดูเป็นคนขี้เกียจ (มักใช้คำว่าชิลล์ชิลล์แทน เพราะดูเก๋กว่า) ก็ควรไปยืนเทียบกับซาลารีแมนในเวลาทำงาน ในออฟฟิศที่เสียงโทรศัพท์ดังระงมและทุกคนกำลังง่วนอยู่กับอะไรตรงหน้า หรือไม่เดินไปเดินมาอย่างรีบเร่งระหว่างโต๊ะทำงานและมุมกาแฟ
แต่เอาเข้าจริง ความขี้เกียจนั้นสามารถรู้ได้เฉพาะตน ความขยันก็เช่นกัน หากต้องการเปรียบเทียบจริงๆ อาจจะมีบางอย่างเหมาะสมกว่าโคอาลา
บางช่วงตอนของบทสนทนากับ เป็นเอก รัตนเรือง นั้น ติดค้างในความทรงจำ
“ผมกับเพื่อนๆ ก็ไปทำหนังสั้นกัน ยกกองไปถ่ายกันสนุกๆ เนี่ย…ผมถือว่าเป็นเรื่องขี้เกียจเหมือนกัน ก็มันไม่มีโปรฟิต แต่ถ้าคุณอยู่ข้างนอกแล้วมองมาที่พวกเรานี่ คุณจะเห็นเราแม่ง วิ่งวุ่น ขยันกันฉิบหายเลยนะ”
แม้ว่าความขี้เกียจจะเป็นเรื่องสัมพัทธ์ แต่จังหวะชีวิตนั้นก็เป็นของใครของมัน ยังไม่รวมถึงเนื้อหาสาระ ในการกระทำที่อ้างว่าขี้เกียจหรือขยันนั่นอีก
ถึงตอนนี้หมีโคอาลาบอกผมว่า ขี้เกียจขยับ เพราะไม่ดังเหมือนเพื่อนแพนด้า ออกแอคติ้งมากไปก็เหนื่อยเปล่า
ถ้าเป็นเอกคนขยัน (?) ยืนยิ้มแฉ่งอยู่ตรงกลาง นั่นก็เพราะยืนเทียบเคียงกับเป็นเอกขี้เซา คนที่เมาขี้ตาอยู่นั่นแล
เห็นใจมีโคล่าค่ะ…
มันทำหน้าเซ็งตลอดเวลา หรือว่ามันหน้าอย่างนั้นเป็นธรรมชาติผมก็ไม่รู้นะ 55