way ฉบับแรกปรากฏโฉมในขณะที่ผมเพิ่งพ้นรั้วของโรงเรียนออกแบบแห่งหนึ่ง แต่ผมจำได้แม่นว่าผมซื้ออ่านโดยเริ่มจากฉบับที่ 2 โดยมีเหตุผลว่าชอบ design และถูกใจในรสนิยมของการจัดรูปเล่ม
สองปีแรกของการทำงานในฐานะกราฟิกดีไซเนอร์ เป็นช่วงของการเผาตัวเองให้มอดไหม้ เหนื่อยแต่ก็ร้อนแรง (ตามประสาของผมอะนะ มิได้เปล่งแสงแก่โลกภายนอกหรอก แต่สว่างกระจ่างจนผมรู้สึกว่าฉากตอนหลายอย่างและความรู้สึกเก่าๆ ยังชัดเจน) ผมจำได้ดีว่าตัวเองรู้สึกอึดอัดขัดข้องกับเหล่าลูกค้าผู้น่ารักทั้งหลาย
ในระหว่างนั้น way มีช่วงพัก ห่างหาย คราวหนึ่งหายไปนานเกือบปีก่อนจะกลับมาด้วยปกใบหน้านนทรีย์ นิมิตบุตร ที่วางตะแคง ผมจำได้แม่นว่าสกู๊ปหลักในเล่มก็ว่างเลย์เอาท์ตะแคง 90 องศา ทำประหนึ่งว่าตัวเองเป็นแท็ปลอยด์ให้คนกางอ่าน
หากมีใครสงสัยว่าเหตุใดนิตยสารบางๆ ฉบับนี้ถึงกล้าเล่นเลอะเทอะหลายสิ่งหลายอย่าง เช่นหัวหนังสือที่ท้าทายการอ่าน แถมยังขยับตำแหน่งแห่งหนตามวาระ ชุดตัวอักษรที่บางช่วงก็สมัครใจใฝ่ในทางฟอนต์สมัครเล่น รวมไปถึงเลย์เอาท์ที่ไม่ค่อยเคร่งครัดกับ template เรียกได้ว่าสนุกสนานเลยเถิดเกินเนื้อหาในบางคราว
นั่นต้องยกภาพประทับใจที่ พี่ก้อง วีรยุทธ คงเทศน์-Art director ยุคก่อตั้ง มอบไว้ให้
นั่นคือคำบอกเล่าโดยไม่ต้องมีคำพูด ว่านิตยสารซีเรียสๆ ก็มีความทะเยอทะยานทางรสนิยมได้
แม้เราจะยังไม่มีโอกาสได้พบเจอกันเลยสักครั้ง ไม่มีห้วงเวลาของการส่งไม้ต่อฝากฝังอันใด แต่ผมจำได้ว่าสายวันนั้น วันของการเริ่มต้นทำงานวันแรกที่ way ผมนั่งชันสูตรไฟล์และ layout เก่าๆ ของ way ฉบับก่อนๆ อย่างกระหายใคร่รู้ — เราไม่เคยได้คุยกัน แต่ผมติดหนี้ทางการออกแบบของ วีรยุทธ์ คงเทศน์ ก้อนใหญ่ทีเดียว
: : :
ผมเริ่มที่ way ฉบับที่ 18 ในระหว่างนั้นแม้ผมจะไม่ได้พบกับอาร์ตไดคนก่อน แต่ผมก็ได้รับการดูแลจาก พี่เอก-เอกชัย รอดโตนด (headaekstudio) ที่รับช่วงต่อจากพี่ก้องในช่วงเล่ม 16-18
พี่เอกแม้จะไม่ได้นั่งประจำที่ออฟฟิศ แต่มาดจอมยุทธ์ฉึบฉับฟาดฟันกำหราบอาร์ทเวิคด้วยดาบเดียวนั้นน่าประทับใจยิ่ง ภาษาทางการออกแบบของพี่เอกนั้นถ้าพูดกันตามตรงก็คือด้านตรงข้ามกับผมเลย มันฉูดฉาดรวดเร็วรุกเร้า แต่ถึงผมจะไม่ได้รับอิทธิพลจากพี่เอกมากนัก (เพราะคนละทาง) แต่มันก็ทำให้ช่วงแรกๆ ของการเริ่มงานที่ way นั้นไม่ทำให้ผม ‘เหวอ’ จนเกินรับ
: : :
ถ้านึกย้อนไปในช่วงของการทำงานที่ way ผมระลึกเสมอว่าตัวเองเป็นเด็กจบใหม่ เพิ่งทำงานมาสองสามปี พอพี่คม – อธิคม คุณาวุฒิ (บก.ในขณะนั้น ก่อนจะกลายเป็น ก็อดฟาเธอร์ ในวันนี้) เอ่ยว่าอยากให้ผมรื้อดีไซน์ใหม่ทั้งเล่ม ผมจึงถือว่าเป็นเกียรติมากที่ได้รับความไว้วางใจ (หรือว่าพี่เขาชอบแทงหวยก็ไม่ทราบ)
ด้วยความห่าม ผมจึงเปลี่ยนหัวหนังสือ เป็น WAY (ปรากฏตั้งแต่ฉบับที่ 31) จนถึงปัจจุบันนี้
นิตยสารไม่สามารถทำได้ด้วยตัวคนเดียว ผมเคยเอ่ยถึงเหล่าผู้ร่วมสร้างสีสันมาบ้างแล้ว ที่นี่
แต่ในวาระครบรอบ 9 ปีของนิตยสารฉบับหนึ่ง ชีวิต 2 ปีแรกของมันนั้นเป็นช่วงของการบุกป่าฝ่าดงและถากเส้นทางอันน่าทึ่งเป็นอย่างยิ่ง
ด้วยความเคารพและแรงบันดาลใจ แด่ผู้มาก่อนครับ.
ที่ผนังออฟฟิศหลังโต๊ะพี่คม มีปกเวย์ทุกปกแปะอยู่ เราไล่สายตาดูแล้วก็พบว่า เออ เราแทบจะไม่เคยทำปกสีส้มเลยแฮะ..