พ่อหล่อสอนลูก – Papa, you’re handsome
อธิคม คุณาวุฒิ เขียน
WAY of BOOK, มีนาคม 2559
art direction – antizeptic
ลายเส้นบนแจ็กเก็ต – ถิง ชู (TurquoiseTing)
กราฟิกบนปก – ชิน เอกก้านตรง (Shhhh)
พ่อหล่อสอนลูก – Papa, you’re handsome
อธิคม คุณาวุฒิ เขียน
WAY of BOOK, มีนาคม 2559
art direction – antizeptic
ลายเส้นบนแจ็กเก็ต – ถิง ชู (TurquoiseTing)
กราฟิกบนปก – ชิน เอกก้านตรง (Shhhh)
way ฉบับแรกปรากฏโฉมในขณะที่ผมเพิ่งพ้นรั้วของโรงเรียนออกแบบแห่งหนึ่ง แต่ผมจำได้แม่นว่าผมซื้ออ่านโดยเริ่มจากฉบับที่ 2 โดยมีเหตุผลว่าชอบ design และถูกใจในรสนิยมของการจัดรูปเล่ม
สองปีแรกของการทำงานในฐานะกราฟิกดีไซเนอร์ เป็นช่วงของการเผาตัวเองให้มอดไหม้ เหนื่อยแต่ก็ร้อนแรง (ตามประสาของผมอะนะ มิได้เปล่งแสงแก่โลกภายนอกหรอก แต่สว่างกระจ่างจนผมรู้สึกว่าฉากตอนหลายอย่างและความรู้สึกเก่าๆ ยังชัดเจน) ผมจำได้ดีว่าตัวเองรู้สึกอึดอัดขัดข้องกับเหล่าลูกค้าผู้น่ารักทั้งหลาย
ในระหว่างนั้น way มีช่วงพัก ห่างหาย คราวหนึ่งหายไปนานเกือบปีก่อนจะกลับมาด้วยปกใบหน้านนทรีย์ นิมิตบุตร ที่วางตะแคง ผมจำได้แม่นว่าสกู๊ปหลักในเล่มก็ว่างเลย์เอาท์ตะแคง 90 องศา ทำประหนึ่งว่าตัวเองเป็นแท็ปลอยด์ให้คนกางอ่าน
หากมีใครสงสัยว่าเหตุใดนิตยสารบางๆ ฉบับนี้ถึงกล้าเล่นเลอะเทอะหลายสิ่งหลายอย่าง เช่นหัวหนังสือที่ท้าทายการอ่าน แถมยังขยับตำแหน่งแห่งหนตามวาระ ชุดตัวอักษรที่บางช่วงก็สมัครใจใฝ่ในทางฟอนต์สมัครเล่น รวมไปถึงเลย์เอาท์ที่ไม่ค่อยเคร่งครัดกับ template เรียกได้ว่าสนุกสนานเลยเถิดเกินเนื้อหาในบางคราว
นั่นต้องยกภาพประทับใจที่ พี่ก้อง วีรยุทธ คงเทศน์-Art director ยุคก่อตั้ง มอบไว้ให้
นั่นคือคำบอกเล่าโดยไม่ต้องมีคำพูด ว่านิตยสารซีเรียสๆ ก็มีความทะเยอทะยานทางรสนิยมได้
แม้เราจะยังไม่มีโอกาสได้พบเจอกันเลยสักครั้ง ไม่มีห้วงเวลาของการส่งไม้ต่อฝากฝังอันใด แต่ผมจำได้ว่าสายวันนั้น วันของการเริ่มต้นทำงานวันแรกที่ way ผมนั่งชันสูตรไฟล์และ layout เก่าๆ ของ way ฉบับก่อนๆ อย่างกระหายใคร่รู้ — เราไม่เคยได้คุยกัน แต่ผมติดหนี้ทางการออกแบบของ วีรยุทธ์ คงเทศน์ ก้อนใหญ่ทีเดียว
: : :
ผมเริ่มที่ way ฉบับที่ 18 ในระหว่างนั้นแม้ผมจะไม่ได้พบกับอาร์ตไดคนก่อน แต่ผมก็ได้รับการดูแลจาก พี่เอก-เอกชัย รอดโตนด (headaekstudio) ที่รับช่วงต่อจากพี่ก้องในช่วงเล่ม 16-18
พี่เอกแม้จะไม่ได้นั่งประจำที่ออฟฟิศ แต่มาดจอมยุทธ์ฉึบฉับฟาดฟันกำหราบอาร์ทเวิคด้วยดาบเดียวนั้นน่าประทับใจยิ่ง ภาษาทางการออกแบบของพี่เอกนั้นถ้าพูดกันตามตรงก็คือด้านตรงข้ามกับผมเลย มันฉูดฉาดรวดเร็วรุกเร้า แต่ถึงผมจะไม่ได้รับอิทธิพลจากพี่เอกมากนัก (เพราะคนละทาง) แต่มันก็ทำให้ช่วงแรกๆ ของการเริ่มงานที่ way นั้นไม่ทำให้ผม ‘เหวอ’ จนเกินรับ
: : :
ถ้านึกย้อนไปในช่วงของการทำงานที่ way ผมระลึกเสมอว่าตัวเองเป็นเด็กจบใหม่ เพิ่งทำงานมาสองสามปี พอพี่คม – อธิคม คุณาวุฒิ (บก.ในขณะนั้น ก่อนจะกลายเป็น ก็อดฟาเธอร์ ในวันนี้) เอ่ยว่าอยากให้ผมรื้อดีไซน์ใหม่ทั้งเล่ม ผมจึงถือว่าเป็นเกียรติมากที่ได้รับความไว้วางใจ (หรือว่าพี่เขาชอบแทงหวยก็ไม่ทราบ)
ด้วยความห่าม ผมจึงเปลี่ยนหัวหนังสือ เป็น WAY (ปรากฏตั้งแต่ฉบับที่ 31) จนถึงปัจจุบันนี้
นิตยสารไม่สามารถทำได้ด้วยตัวคนเดียว ผมเคยเอ่ยถึงเหล่าผู้ร่วมสร้างสีสันมาบ้างแล้ว ที่นี่
แต่ในวาระครบรอบ 9 ปีของนิตยสารฉบับหนึ่ง ชีวิต 2 ปีแรกของมันนั้นเป็นช่วงของการบุกป่าฝ่าดงและถากเส้นทางอันน่าทึ่งเป็นอย่างยิ่ง
ด้วยความเคารพและแรงบันดาลใจ แด่ผู้มาก่อนครับ.
ที่ผนังออฟฟิศหลังโต๊ะพี่คม มีปกเวย์ทุกปกแปะอยู่ เราไล่สายตาดูแล้วก็พบว่า เออ เราแทบจะไม่เคยทำปกสีส้มเลยแฮะ..
มะนาวฝรั่ง (lemon) หน้าตาแบบนี้
โจทย์ของเล่มนี้คือ เล่นกับงานโปรดักชั่นได้เต็มที่ (ปกติโจทย์คือ จงประหยัด 555)
คิดๆ อยู่หลายอย่างจนมาลงที่การเจาะ ซ้อน
เพราะมันเป็นเรื่องของข้อพิพาททับซ้อนบนผืนดินเดียวกัน
ชื้อรองของหนังสือเล่มนี้คือ A Jew, An Arab in the heart of the middle east
A JEW, AN ARAB จึงอยู่กันคนละเลเยอร์ แต่ทั้งสองต่างทาบทับลงบน The Middle East
ทุกอย่างไม่ได้คิดแบบเส้นตรงซะทีเดียว ในขณะทดลองเรื่องการซ้อนทับ เราก็ต้องคิดกลับไปกลับมาในองค์ประกอบต่างๆ เช่น สี ชุดฟอนต์ ฯลฯ
สองจิตสองใจอยู่นานว่าจะเป็นแค่ฟอร์มวงกลม หรือจะเป็นผลมะนาวเลยดี
ตัดสินใจไม่ได้ก็ลองทำ mockup มาพิจารณา
ฝ่ายบรรณาธิการติงมาว่า สัญลักษณ์จันทร์เสี้ยวนั้นหมายถึงอิสลาม มีคำว่า A Jew บนสัญลักษณ์นั้นอาจจะไม่เหมาะสม
(ทั้งที่ความหมายโดยนัยของดีไซน์นี้ คือ ที่ราบลุ่มวงพระจันทร์ – The Fertile Crescent ต่างหาก)
เลยลองคิดถึงการเหลื่อมซ้อนในรูปแบบอื่นๆ ดู
จนสรุปที่ฟอร์มนี้ วงกลม+มะนาว
เดิมทีตั้งใจอยากทำ emboss แต่โรงพิมพ์ไม่แนะนำ เพราะอาจจะเลอะได้เนื่องจากเราพิมพ์ปก 2 ด้าน
กระดาษปก เลือกใช้ ultra felt มีผิวสัมผัสน่าสนใจ และไม่ทำเทคนิคพิเศษอื่นๆ อีก
mockup จากโรงพิมพ์ บนกระดาษจริง
ในระหว่างรอส่วนอื่นๆ ก็ลองสีอื่นๆ ดูบ้าง (ในการปรับแบบช่วงก่อนหน้า จะเห็นว่างาน typography ก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ)
แต่สุดท้ายก็จบที่สีเดิม
ฟอนต์ Bebas Neue และ NS Utsaha (ฟอนต์ที่ทำเอง ใช้ในส่วนภาษาไทย)
แบบจริง แสดงรอยพับ และ diecut
box และสิ่งอื่นๆ ใช้พื้นที่ว่างให้คุ้มค่า (ออกแบบเร็วๆ จากสเกตช์ต่างๆ ที่ไม่ได้ใช้จากขั้นพัฒนาแบบ รวมถึง pattern ที่ทำเล่นๆ ทิ้งๆ ไว้ — ทุกสิ่งที่ทำมีประโยชน์เสมอ ไม่วันนี้ก็วันหน้า)
ลองพับกล่องจากพริ้นต์ จึงพบว่าลืมปูสีบางด้าน
ปกเล่มนี้เป็นงานพิมพ์ 3 สี คือ pantone 2 เบอร์ และสีดำ (สำหรับตัวอักษรและบาร์โค้ด)
จบขั้นตอนดีไซน์แล้วก็จริง แต่งานของเรายังไม่จบ มาดูสีจริงบนกระดาษจริงที่โรงพิมพ์
การไล่สกรีนของสีเทา pantone 429 C ดูเรียบร้อยดี
แต่ปัญหาอยู่ที่สีเหลือง ความต่างระหว่าง 100% และ 80% นั้นน้อยเกินไป จึงแก้เพลทตอนนั้นเลยเป็น 100% และ 40%
ทำทุกอย่างที่ควรจะทำไปหมดแล้ว มารอดูเล่มจริงกันนะครับ
– – –
โดยส่วนตัวนักออกแบบ ผมพอใจงานนี้มากนะ แต่งานแบบนี้ไม่อาจเกิดขึ้นได้เลยด้วยตัวนักออกแบบเพียงส่วนเดียว
ต้องขอบคุณ พี่จ๊อก แห่ง ภาพพิมพ์ ที่ดูแลเรื่องโปรดักชั่นอย่างเอาใจใส่
ขอบคุณผู้จัด เทศกาลหนังสือกรุงเทพ ครั้งที่ 1 ที่เป็นแรงกระตุ้นชั้นดีให้เหล่านักออกแบบได้โชว์ความสามารถ
ขอบคุณผู้บริหารสำนักพิมพ์ ที่ไฟเขียวให้กับค่าโปรดักชั่นที่แพงกว่าปกติ
และสุดท้าย ขอบคุณ ไพรัช แสนสวัสดิ์ ผู้แปล ที่ไว้ใจในรสนิยมของเรา
3 exhibition posters for ‘The Lemon Tree’ from WAY of BOOK
represent the working process, design concept, and the review from the media
will be display on in Bangkok Book Festival 2015 on 17-19 July 2015
at BACC among other interesting alternative publishers in Thailand.