. . .
มันเป็นเรื่องราวซ้ำๆ อย่างที่เราได้เห็นตามหน้าหนังสือพิมพ์ตั้งแต่ปางก่อน เรื่องของชาวนาชาวไร่ออกมาเดินขบวนขอปันสิทธิในที่ดินทำกิน บ้างก็ส่งเสียงตะโกนให้เพื่อนร่วมประเทศรับทราบข่าวสารการถูกปล้นชิงทรัพยากรท้องถิ่น ชุมชนเก่าแก่หลายต่อหลายแห่งต้องรับบทเป็นผู้เสียสละร่ำไป เพื่อหลีกทางให้โครงการขนาดใหญ่ผุดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า
โดยที่ผู้เสวยสุขบริโภคผลผลิตปลายทางของอภิมหาโปรเจ็คท์นั้นๆ เป็นใครก็ไม่รู้
รู้แต่ว่าไม่ใช่คนในชุมชนแน่ๆ
เรื่องทำนองนี้มิใช่เพียงบทอรรถาธิบายโศกนาฏกรรมชนชั้นล่างตามขนบวรรณกรรมเพื่อชีวิตเมื่อ 40 ปีก่อน แต่โดยเนื้อหาแล้วมันถูกผลิตซ้ำและขยายผลไปสู่วิถีชีวิตประจำวันของผู้คนหลากหลายกลุ่ม
อย่างที่เราคงเคยได้ยินเสียงพร่ำบ่นถึงคุณภาพการศึกษา ไม่ใช่เฉพาะจากปากพ่อแม่ชนชั้นกลาง กระทั่งตัวผู้เรียนเองก็เต็มกลืนกับบรรยากาศการเรียนการสอนจนต้องใช้ช่องทางในโลกออนไลน์ระบายความอึดอัด ความไม่เป็นธรรมในการจัดเก็บภาษีที่มนุษย์เงินเดือนและผู้คนหาเช้ากินค่ำ ต้องควักกระเป๋าในสัดส่วนสูงกว่านักเก็งกำไรในตลาดหุ้น ระเบียบกติกาที่ฟังดูซับซ้อนยุ่งเหยิงเกี่ยวกับระบบประกันสุขภาพ ซึ่งทำไปทำมาบรรดาคนงานคอปกขาวที่ต้องถูกหักเงินทุกเดือนกลับถูกผลักให้เป็นชนชั้นล่างสุดของระบบดังกล่าว รวมไปถึงการพยายามหาทางยืดชีวิตตัวเองด้วยการเลือกบริโภคสินค้าเกษตรอินทรีย์ที่ฟังดูดัดจริตน่าหมั่นไส้สิ้นดี ในเมื่อคนอีกจำนวนไม่น้อยในประเทศแค่หาอาหารอาบสารเคมีรับประทานให้ครบมื้อยังยาก
ฯลฯ
. . .
อาจจะตั้งชื่อเล่นให้งานทั้ง 3 เล่มนี้ว่าเป็น ‘ซีรีส์ไม้ยมก’ ก็ย่อมได้เนื่องจากเวลาที่เราต้องพูดอะไรซ้ำๆ แสดงว่าเรื่องราวที่กำลังเอ่ยถึงนั้นยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
ขยายความอีกแบบหนึ่งก็คือ การที่เรายังอดทนยืนยันจะเอ่ยซ้ำในเรื่องเหล่านี้ มันหมายถึงการย้ำให้เห็นว่า
เราไม่เชื่อสูตรการโค่นอะไรลงสักอย่าง
เพื่อจะได้อะไรทุกอย่าง
– บางส่วนจากคำนำสำนักพิมพ์
พูดดีๆ
รวมบทสัมภาษณ์
ชาตินี้ตอนบ่ายๆ
รวมข้อเขียนเชิงสารคดี
*ภูเขาตายช้าๆ
รวมเรื่องสั้น
*ปกดราฟแรกโดย Btaeng Kty
– – –
WAY of BOOK, กรกฎาคม 2556